เมนู

10. ขัตติยาธิปปายสูตร


ว่าด้วยความประสงค์ของคน 6 จำพวก


[323] ครั้งนั้น ชาณุสโสณิพราหมณ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้
ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มี-
พระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ กษัตริย์ทั้งหลาย ย่อมมีความประสงค์
อะไร นิยมอะไร มั่นใจอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ ธรรมดากษัตริย์ทั้งหลาย ย่อมประสงค์โภคทรัพย์
นิยมปัญญา มั่นใจในกำลังทหาร ต้องการในการได้แผ่นดิน มีความเป็นใหญ่
เป็นที่สุด.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็พราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมมีความ
ประสงค์อะไร นิยมอะไร มั่นใจอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ บรรดาพราหมณ์ทั้งหลาย ย่อมประสงค์โภค-
ทรัพย์ นิยมปัญญา มั่นใจในมนต์ ต้องการการบูชายัญ มีพรหมโลกเป็นที่สุด.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็คฤหบดีทั้งหลาย ย่อมมีความประสงค์
อะไร นิยมอะไร มั่นใจในอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ ธรรมดาคฤหบดีทั้งหลาย ย่อมประสงค์โภค-
ทรัพย์ นิยมปัญญา มั่นใจในศิลปะ ต้องการการงาน มีการงานที่สำเร็จแล้ว
เป็นที่สุด.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็สตรีทั้งหลาย ย่อมประสงค์อะไร
นิยมอะไร มั่นใจในอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด.

พ. ดูก่อนพราหมณ์ ธรรมดาสตรีทั้งหลาย ย่อมประสงค์บุรุษ
นิยมเครื่องแต่งตัว มั่นใจใจบุตร ต้องการไม่ให้มีสตรีอื่นร่วมสามี มีความ
เป็นใหญ่ในบ้านเป็นที่สุด.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็โจรทั้งหลาย ย่อมประสงค์อะไร
นิยมอะไร มั่นใจอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ ธรรมดาโจรทั้งหลาย ย่อมประสงค์ลักทรัพย์
ของผู้อื่น นิยมที่ลับเร้น มั่นใจในศาสตรา ต้องการที่มืด มีการที่ผู้อื่นไม่เห็น
เขาเป็นที่สุด.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ก็สมณะทั้งหลาย ย่อมประสงค์อะไร
นิยมอะไร มั่นใจในอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด.
พ. ดูก่อนพราหมณ์ ธรรมดาสมณะทั้งหลาย ย่อมประสงค์ขันติ-
โสรัจจะ นิยมปัญญา มั่นใจในศีล ต้องการความไม่มีห่วงใย มีพระนิพพาน
เป็นที่สุด.
ชา. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ เรื่องไม่เคยมีได้มีแล้ว
คือท่านพระโคดมย่อมทรงทราบความประสงค์ ความนิยม ความมั่นใจ
ความต้องการและสิ่งที่เป็นที่สุด แม้แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย ฯลฯ แม้แห่ง
พราหมณ์ทั้งหลาย ฯลฯ แม้แห่งคฤหบดีทั้งหลาย ฯลฯ แม้แห่งสตรีทั้งหลาย
ฯลฯ แม้แห่งโจรทั้งหลาย ฯลฯ ย่อมทรงทราบความประสงค์ ความนิยม
ความมั่นใจ ความต้องการ และสิ่งที่เป็นสี่สุด แม้แห่งสมณะทั้งหลาย ข้าแต่
ท่านพระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่ท่านพระโคดมผู้
เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ขอท่านพระโคดมจงทรงจำข้า
พระองค์ว่าเป็นอุบาสกถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.
จบขัตติยาธิปปายสูตรที่ 10

อรรถกถาขัตติยาธิปปายสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในขัตติยาธิปปายสูตรที่ 10 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า โภคาธิปฺปายา ความว่า กษัตริย์ทั้งหลายตั้งพระประสงค์ไว้
คือ มีอัธยาศัยเป็นไปเพื่อรวบรวมโภคะ.
บทว่า ปญฺญูปวิจารา ความว่า กษัตริย์ทั้งหลายมีการพิจารณา
เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ปัญญาอย่างนี้ว่า ขอเราทั้งหลายพึงเป็นผู้มีปัญญา.
การพิจารณานี้แลของกษัตริย์เหล่านั้นย่อมเที่ยวไปในจิต.
บทว่า พลาธิฏฺฐานา ความว่า กษัตริย์ทั้งหลายมีพระวรกายที่มีกำลัง
เป็นที่ตั้ง. เป็นความจริง กษัตริย์เหล่านั้นได้ร่างกายที่มีกำลังแล้ว ชื่อว่า
ได้ที่พึ่ง.
บทว่า ปฐวีอภินิเวสา ความว่า กษัตริย์ทั้งหลายทำการตั้งพระทัยมั่น
เพื่อประโยชน์แก่แผ่นดินอย่างนี้ว่า เราจักเป็นเจ้าของแผ่นดิน.
บทว่า อิสฺสริยปริโยสานา ความว่า กษัตริย์ทั้งหลายมีรัชดาภิเษก
(การอภิเษกเป็นพระราชา) เป็นที่สุด เป็นความจริง กษัตริย์เหล่านั้น ได้รับ
การอภิเษกแล้ว ชื่อว่า ถึงที่สุด. พึงทราบความหมายในบททั้งปวง โดย
นัยนี้.
ส่วนในบทที่เหลือในสูตรนี้ มีอธิบายดังต่อไปนี้ มีอันดับแรก พราหมณ์
ทั้งหลายได้มนต์แล้ว ชื่อว่า ได้ที่พึ่ง. คฤหบดีทั้งหลายได้ศิลปะอย่างใด
อย่างหนึ่งแล้ว ชื่อว่าได้ที่พึ่ง. หญิงทั้งหลายได้บุตรซึ่งเป็นเจ้าของมรดกใน
ตระกูล ชื่อว่าได้ที่พึ่ง. โจรทั้งหลายได้ศัสตราวุธ ชนิดใดชนิดหนึ่งแล้ว ชื่อว่า